1. ความหมายของคำว่าการออกแบบกราฟิก (Graphic Design)
ความหมายของ
การออกแบบกราฟิกเป็น
ลักษณะของการออกแบบพื้นผิว 2 มิติ
เพื่อเป็นสื่อกลางสำหรับการถ่ายทอดข้อความ ความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์
จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งเพื่อให้เข้าใจและรู้เรื่องโดยใช้ประสาทตา
ในการรับรู้เป็นส่วนใหญ่
ขอบข่ายของงานกราฟิก
งานกราฟิกเป็นงานที่ดูเผิน ๆ น่านะเกี่ยวกับ
งานพิมพ์เท่านั้นแต่จริง ๆ แล้วงานกราฟิกยังเป็น งานที่มีความเกี่ยวพันกับงานอื่น ๆ อีก ได้แก่
- การประชาสัมพันธ์
ถือได้ว่างานกราฟิกนี้เป็นงานที่ควบคู่ไปกับงานบริหาร เพราะเนื้อหาของ
การประชาสัมพันธ์ที่ออกไปนั้น
หากไม่ดึงดูดความสนใจที่ดีแล้วย่อมไม่สามารถที่จะสื่อความหมายกันระหว่างผู้
ชมกับฝ่ายองค์กรได้
- งานโทรทัศน์ กราฟิกจะเกี่ยวข้องในส่วนที่เป็นหัวเรื่อง(Title) สไลด์ ฯลฯ
- งานจัดฉากละคร เช่นการจัดฉากในรูปแบบต่าง ๆ การออกแบบตัวหนังสือ
- งานหนังสือพิมพ์ วารสารนิยมใช้สัญลักษณ์ทางการฟิกกันมากเพราะสัญลักษณ์เหล่านี้ทำให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย
- งานออกแบบ หรือแบบร่าง เช่นออกแบบบ้าน
- เขียนภาพเหมือน
- งานพิมพ์หรือทำสำเนา
- ทำซิลค์สกรีน
- การออกแบบหนังสือ เครื่องหมาย สัญลักษณ์ต่างๆ
ความสำคัญของการออกแบบงานกราฟิก
1. การออกแบบที่ดีต้องทำให้ข้อมูลที่กระจัดกระจายมีระเบียบมากขึ้น
2. ช่วยให้ระบบการถ่ายทอดข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน
3. ช่วยสร้างสรรค์งานสัญลักษณ์ทางสังคม เพื่อการสื่อความหมายร่วมกัน
4. ช่วยพัฒนาระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
5. ช่วยให้เกิดจินตภาพ เกิดมีแนวคิดสิ่งใหม่อยู่เสมอ
6. ส่งเสริมให้เกิดค่านิยมทางความงาม
ประเภทของงานกราฟิก
การออกแบบงานกราฟิกใด ๆ
ย่อมมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แตกต่างกันไป
ลักษณะเฉพาะของงานหรือเงื่อนไขต่าง
ๆของงานและวิธีการดำเนินงานต้องสอดคล้องกับปัจจัยทุกด้านในการสร้างงานออก
แบบจึงควรศึกษาถึงองค์ประกอบสำคัญ ๆ หลาย ๆ ด้าน แนวทางในการคิดงานกราฟิก
จะแปรเปลี่ยนไปตามลักษณะของสื่อหรืองานแต่ละประเภทโดยสามารถจัดหมวดหมู่ได้
ดังนี้
สรุปความหมายการออกแบบกราฟิกจากแหล่งอ้างอิงของ
Bob Gill กราฟิก,ดีไซน์เนอร์ และ นักเขียนภาพประกอบชาวอเมริกันให้ความเห็นสั้นๆว่า ” Graphic Design เปรียบดังภาษาขั้นที่สอง”
เราสามารถสรุปภาพรวมและคำจำกัดความของคำ
ว่า Graphic Design ได้ว่า Graphic Design คือ
การออกแบบภาษาชนิดหนึ่งที่มีพื้นฐานมาจากองค์ประกอบทางศิลปะ
ซึ่งสามารถบอกเล่าแนวคิดของเราต่อสิ่งต่างๆ
โดยมันจะต้องน่าสนใจทั้งในแง่ตัวภาษาและเนื้อหาที่จะพูดถึงมัน
Massimo Vignelli นักออกแบบชาวอิตาลีได้ให้ความเห็นว่า ”
กราฟฟิกดีไซน์เปรียบเสมือนกับการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ”
โดยประกอบไปด้วยเรื่องต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงควาหมายให้ถูกต้อง,
การจัดการกับประโยค หรือข้อความที่สอดคล้องกัน
และการจัดการกับส่วนที่มีความหมายยุ่งยากต่อการทำความเข้าใจ
ให้เข้าใจได้อย่างง่ายดาย”
Tibor Kalman นักกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ชาวฮังการีแห่งค่าย Colors Magazine
ได้ให้สัมภาษณ์กับ Moira Cullen นักเขียนทางด้านการออกแบบชั้นนำไว้ว่า ”
Graphic Design คือภาษาอย่างหนึ่ง
แต่นักออกแบบกราฟิกไม่ต้องยุ่งยากหรือกังวลเกี่ยวกับหลักการในเรื่องของภาษา
เช่นเรื่องพยางค์หรือเว้นวรรคมากนัก
แต่นักออกแบบควรใช้เวลาไปสนใจในเรื่องการสื่อสารออกไปในทิศทางที่มันควรจะ
เป็นให้ได้เสียมากกว่า”
สรุปความหมายโดยรวมของการออกแบบกราฟิก คือ
การออกแบบกราฟิกเป็นการออกแบบในรูปสื่อทางด้านภาษาเพราะใช้คำในการเป็นสื่อเพื่อให้เข้าใจในรูปแบบกราฟิกได้ง่ายขึ้นและตัวกราฟิกดีไซต์สามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้ดี
2. ความหมายของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Design)
ความหมายการออกแบบบรรจุภัณฑ์ (packaging) หมายถึง
การกำหนดรูปแบบและโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์ให้สัมพันธ์กับหน้าที่ใช้สอยของ
ผลิตภัณฑ์
เพื่อการคุ้มครองป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายและเพิ่มคุณค่าด้านจิตวิทยาต่อ
ผู้บริโภค โดยอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการสร้างสรรค์
ความหมายของการบรรจุภัณฑ์ (Packaging) บรรจุภัณฑ์มีบทบาท
ที่สำคัญยิ่งต่อผู้ผลิตสินค้า
เนื่องจากบรรจุภัณฑ์สามารถทำหน้าที่ส่งเสริมการขาย
กระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น
ในเวลาเดียวกันมีโอกาสลดต้นทุนสินค้าอันจะนำไปสู่ยอดกำไรสูงซึ่งเป็นเป้า
หมาย ของทุกองค์กรในระบบการค้าเสรี
คำนิยาม การตลาด
คือกระบวนการทางด้านบริหารที่รับผิดชอบต่อกลุ่มเป้าหมายโดยการค้นหาความต้อง
การ และสนองความต้องการนั้นเพื่อบรรลุถึงกำไร ตามที่ต้องการ ตามคำนิยาม
การตลาดประกอบด้วย องค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ คือ กลุ่มเป้าหมาย
การสนองความต้องการ และกำไร การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะนั้น
จำเป็นต้องหาข้อมูลจากตลาด พร้อมทั้งค้นหาความต้องการ
ของกลุ่มเป้าหมายในรูปของการบริโภค สินค้าหรือบริการ
ส่วนการตอบสนองความต้องการนั้น ต้องใช้กลไกทางด้านส่วนผสมทางการตลาด
เพื่อชักจูงให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้ซื้อให้เลือกซื้อสินค้าเราแทนที่จะซื้อ
ของคู่แข่งเพื่อบรรลุถึงกำไรที่ได้กำหนดไว้
ความหมายของการบรรจุภัณฑ์ (Packaging)
การบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางการตลาด
โดยเฉพาะปัจจุบันที่การผลิตสินค้า
หรือบริการได้เน้นหรือให้ความสำคัญกับผู้บริโภค (Consumer Oriented)
และจะได้เห็นว่าการบรรจุภัณฑ์มีบทบาทมากขึ้นเพราะลำพังตัวสินค้าเองไม่มีน
วัตกรรม (Innvoation) หรือการพัฒนาอะไรใหม่อีกแล้ว
ฉีกแนวไม่ออกเพราะได้มีการวิจัยพัฒนากันมานานจนถึงขั้นสุดยอดแล้ว
จึงต้องมาเน้นกันที่บรรจุภัณฑ์กับการบรรจุหีบห่อ (Packaging)
บรรจุภัณฑ์กับหีบห่อ (Package) ถือว่าเป็นคำคำเดียวกัน
ทั้งนี้สุดแล้วแต่ผู้ใดประสงค์หรือชอบที่จะใช้คำใด
การออกแบบบรรจุภัณฑ์
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ อาจแบ่งประเภทลักษณะการออกแบบได้ 2 ประเภทคือ
• การออกแบบลักษณะโครงสร้าง
• การออกแบบกราฟฟิค
การออกแบบลักษณะโครงสร้าง หมายถึง การกำหนดรูปลักษณะ
โครงสร้างวัสดุที่ใช้ตลอดจนกรรมวิธีการผลิต การบรรจุ
ตลออดจนการขนส่งเก็บรักษาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์นับตั้งแต่จุดผลิตจนถึงมือ
ผู้บริโภค
1. กระบวนการออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์
ในกระบวนการออกแบบโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์
ผู้วิจัยต้องอาศัยความรู้และข้อมูลจากหลายด้านการอาศัยความช่วยเหลือจากผู้
ชำนาญการบรรจุ (PACKAGING SPECIALISTS) หลาย ๆ
ฝ่ายมาร่วมปรึกษาและพิจารณาตัดสินใจ ซึ่งอิงทฤษฏีของ ปุ่น
คงเจริญเกียรติและสมพร คงเจริญเกียรติ (2542:71-83)
โดยที่ผู้วิจัยจะกระทำหน้าที่เป็นผู้สร้างภาพพจน์ (THE IMAGERY MAKER)
จากข้อมูลต่าง ๆ ให้ปรากฏเป็นรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์จริง
ลำดับขั้นตอนของการดำเนินงาน นับตั้งแต่ตอนเริ่มต้น
จนกระทั่งสิ้นสุดจนได้ผลงานออกมาดังต่อไปนี้ เช่น
1. กำหนดนโยบายหรือวางแผนยุทธศาสตร์ (POLICY PERMULATION OR ATRATEGIC PLANNING)
เช่น ตั้งวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการผลิต เงินทุนงบประมาณ การจัดการ
และการกำหนดสถานะ (SITUATION) ของบรรจุภัณฑ์
ในส่วนนี้ทางบริษัทแด่ชีวิตจะเป็นผู้กำหนด
2. การศึกษาและการวิจัยเบื้องต้น (PRELIMINARY RESEARCH) ได้แก่
การศึกษาข้อมูลหลักการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และวิศวกรรมทางการผลิต
ตลอดจนการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ
ที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องสอดคล้องกันกับการออกแบบโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์
3. การศึกษาถึงความเป็นไปได้ของบรรจุภัณฑ์ ( FEASIBILITY STUDY )
เมื่อได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ
แล้วก็เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของบรรจุภัณฑ์ด้วยการสเก็ต (SKETCH DESING)
ภาพ แสดงถึงรูปร่างลักษณะ และส่วนประกอบของโครงสร้าง 2-3 มิติ
หรืออาจใช้วิธีการอื่น ๆ ขึ้นรูปเป็นลักษณะ 3 มิติ ก็สามารถกระทำได้
ในขั้นตอนนี้จึงเป็นการเสนอแนวความคิดสร้างสรรค์ขั้นต้นหลาย ๆ แบบ
(PRELIMINARY IDFAS) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในเทคนิควิธีการบรรจุ
และการคำนวณเบื้องต้น ตลอดจนเงินทุนงบประมาณดำเนินการ
และเพื่อการพิจารณาคัดเลือกแบบร่างไว้เพื่อพัฒนาให้สมบูรณ์ในขั้นตอนต่อไป
4. การพัฒนาและแก้ไขแบบ ( DESIGN REFINEMENT )
ในขั้นตอนนี้ผู้ออกแบบจะต้องขยายรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ (DETAILED
DESIGN ) ของแบบร่างให้ทราบอย่างละเอียดโดยเตรียมเอกสารหรือข้อมูลประกอบ
มีการกำหนดเทคนิคและวิธีการผลิต การบรรจุ วัสดุ การประมาณราคา
ตลอดจนการทดสอบทดลองบรรจุ เพื่อหารูปร่าง รูปทรงหรือส่วนประกอบต่าง ๆ
ที่เหมาะสมกับหน้าที่ของบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการด้วยการสร้างรูปจำลองง่าย ๆ
(MOCK UP) ขึ้นมา ดังนั้นผู้ออกแบบจึงต้องจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ
เหล่านี้อย่างละเอียดรอบคอบเพื่อการนำเสนอ (PRESENTATION)
ต่อลูกค้าและผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องให้เกิดความเข้าใจเพื่อพิจารณาให้ความคิด
เห็นสนับสนุนยอมรับหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมในรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่ง
ขึ้นเช่น การทำแบบจำลองโครงสร้างเพื่อศึกษาถึงวิธีการบรรจุ
และหน้าที่ของบรรจุภัณฑ์ก่อนการสร้างแบบเหมือนจริง
5. การพัฒนาต้นแบบจริง (PROTOTYPE DEVELOPMENT)
เมื่อแบบโครงสร้างได้รับการแก้ไขและพัฒนา ผ่านการยอมรับแล้ว
ลำดับต่อมาต้องทำหน้าที่เขียนแบบ (MECHANICAL DRAWING) เพื่อกำหนดขนาด
รูปร่าง และสัดส่วนจริงด้วยการเขียนภาพประกอบแสดงรายละเอียดของรูปแบบแปลน
(PLAN) รูปด้านต่าง ๆ (ELEVATIONS) ทัศนียภาพ (PERSPECTIVE)
หรือภาพแสดงการประกอบ (ASSEMBLY) ของส่วนประกอบต่าง ๆมีการกำหนดมาตราส่วน
(SCALE) บอกชนิดและประเภทวัสดุที่ใช้มีข้อความ คำสั่ง
ที่สื่อสารความเข้าใจกันได้ในขบวนการผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ของจริง
แต่การที่จะได้มาซึ่งรายละเอียดเพื่อนำไปผลิตจริงดังกล่าวนั้น
ผู้ออกแบบจะต้องสร้างต้นแบบจำลองที่สมบูรณ์ (PROTOTYPE)
ขึ้นมาก่อนเพื่อวิเคราะห์ (ANALYSIS)
โครงสร้างและจำแนกแยกแยะส่วนประกอบต่าง ๆ ออกมาศึกษา ดังนั้น PROTOTYPE
ที่จัดทำขึ้นมาในขั้นนี้จึงควรสร้างด้วยวัสดุที่สามารถให้ลักษณะ
และรายละเอียดใกล้เคียงกับบรรจุภัณฑ์ของจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้
เช่นอาจจะทำด้วยปูนพลาสเตอร์ ดินเหนียว กระดาษ ฯลฯ และในขั้นนี้
การทดลองออกแบบกราฟฟิคบนบรรจุภัณฑ์
ควรได้รับการพิจารณมร่วมกันอย่างใกล้ชิคกับลักษณะของโครงสร้างเพื่อสามารถนำ
ผลงานในขั้นนี้มาคัดเลือกพิจารณาความมีประสิทธภาพของรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ที่
สมบูรณ์
6. การผลิตจริง (production)
สำหรับขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่รับผิดชอบของฝ่ายผลิตในโรงงานที่จะ
ต้องดำเนินการตามแบบแปลนที่นักออกแบบให้ไว้
ซึ่งทางฝ่ายผลิตจะต้องจัดเตรียมแบบแม่พิมพ์ของบรรจุภัณฑ์ให้เป็นไปตามกำหนด
และจะต้องสร้างบรรจุภัณฑ์จริงออกมาจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นตัวอย่าง (PRE-
PRODUCTION PROTOTYPES) สำหรับการทดสอบทดลองและวิเคราะห์เป็นครั้งสุดท้าย
หากพบว่ามีข้อบกพร่องควรรีบดำเนินการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงดำเนิน
การผลิตเพื่อนำไปบรรจุและจำหน่ายในลำดับต่อไป
สรุปความหมายโดยรวมของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ คือ
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกำหนอดรูปแบบทรงสร้างเองได้ตามบรรจุภัณฑ์ที่ได้คิดค้น และมีหน้าที่ไปยังป้องกันไม่ให้สินค้าเกิดความเสียหายได้ สามารถมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความเก๋ไก๋สวยงามในรูปแบบบองสินค้าตัวนั้นและการออกแบบบรรจุภัณฑ์นี้เพื่อให้ผู้ซื้อสินค้ามีความต้องการมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นตัวแบบบรรจุภัณฑ์